ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตั้งอยู่ที่ไหน? สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศเล็ก ๆ ทางฝั่งตะวันตกของทวีปยุโรป โดยทางฝั่งตะวันตกของประเทศนั้นจะติดกับประเทศฝรั่งเศส ทางใต้ติดกับประเทสอิตาลี ด้านเหนือจะติดกับประเทศเยอรมันนี และทางฝั่งตะวันออกจะติดกับประเทศลิกเตนสไตน์และประเทศออสเตรีย ไม่มีทางออกสู่ทะเล 2. ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีเนื้อที่ทั้งหมดราว ๆ 41, 285 ตารางกิโลเมตร ซึ่งหากนั่งรถไฟจากทางเมืองเจนีวา ไปจรดที่เมืองซูริกทางตอนเหนือก็ใช้เวลาเพียงแค่ราว ๆ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ภูมิประเทศกว่า 60% ของประเทศเป็นภูเขา นั่นก็คือพื้นที่ของเทือกเขาแอลป์ มียอดเขากว่า 100 แห่ง และส่วนมากก็สูงใกล้เคียงหรือมากกว่า 4, 000 เมตรจากระดับน้ำทะเลเลยทีเดียว ซึ่งในหลาย ๆ พื้นที่ก็ได้มีการจัดทำเส้นทางรถไฟและเคเบิ้ลคาร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวสวิสและนักท่องเที่ยว 3. ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แบ่งการปกครองออกเป็น 26 รัฐ (Cantons) มีกรุงเบิร์น (Bern) เป็นเมืองหลวง แต่เมืองที่ใหญ่ที่สุดก็คือ ซูริก (Zurich) มีประชาชนรวมทั้งประเทศประมาณ 8, 401, 120 คน ซึ่งไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ภาษาราชการของสวิตเซอร์แลนด์มีถึง 4 ภาษาด้วยกัน คือ เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อิตาลี และโรมานช์ สัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของประเทศก็คือ ธงสี่เหลี่ยมสีแดง มีกากบาทสีขาวอยู่ตรงกลาง อันเป็นต้นแบบของธงกาชาดสากล (International Red Cross and Red Crescent Movement) ด้วย 4.
และด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นภูเขา จึงทำให้อากาศของสวิตเซอร์แลนด์นั้นเย็นสบายตลอดทั้งปี ฤดูร้อนจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน ฤดูใบไม้ร่วงจะอยู่ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ฤดูหนาวจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม และฤดูใบไม้ผลิจะอยู่ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 5. ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ใช้เขตเวลามาตรฐานแบบ UTC/GMT +1 ชั่วโมง ถ้าเทียบกับเวลาที่ไทยก็จะเดินช้ากว่า 5 ชั่วโมง 6. สกุลเงินของสวิตเซอร์แลนด์นั้นเรียกว่า ฟรังก์สวิส (CHF) โดย 1 ฟรังก์สวิส = 32. 9 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2560) สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวสวิตฯ ควรเตรียมแลกเงินฟรังก์สวิสไปนะคะ เพราะร้านค้าส่วนใหญ่จะรับแค่เงินฟรังก์สวิส มีรับยูโรบ้างแต่ไม่เยอะ เตรียมบัตรเครดิตไปด้วยก็ดีค่ะ เผื่อกรณีฉุกเฉิน 7. สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์จะต้องขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen VISA) ซึ่งถ้าขอมาแล้วก็จะสามารถเข้า-ออกได้ทั่วทั้งยุโรปเลย (ยกเว้นประเทศอังกฤษ) แต่เรื่องเอกสารก็อาจจะยุ่งยากและมีค่าธรรมเนียมแพงพอสมควร ถ้ามีแผนอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นานกว่าประเทศอื่น ๆ ก็ยื่นขอได้ที่สถานทูตประเทศสวิตเซอร์แลนด์เลยค่ะ ดูรายละเอียดเกี่ยวกับวีซ่าเชงเก้นได้ที่ 8.
สวิตเซอร์แลนด์เป็นแหล่งผลิตนาฬิกาคุณภาพระดับโลก ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็หรูหราราคาแพง บางรุ่นก็มีจำหน่ายแค่เพียงในสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น นักท่องเที่ยวจึงนิยมที่จะมาเลือกซื้อนาฬิกากันที่นี่ แบรนด์ที่มีชื่อเสียง อาทิ Rolex, Cartier, Patek Philippe, IWC Schaffhausen, OMEGA, Tissot เป็นต้น 19. สิ่งที่มีชื่อเสียงมาก ๆ อีกอย่างของสวิตเซอร์แลนด์ ก็คือ ช็อกโกแลต หลายคนกล่าวว่าช็อกโกแลตที่นี่คุณภาพดีที่สุดในโลก (แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน) เพราะฉะนั้นห้ามพลาดที่จะลิ้มลองเลยทีเดียว เมนูฮอตฮิตของนักท่องเที่ยวก็คือ ฟองดูว์ น่าจะถูกใจสายของหวาน ส่วนอาหารอื่น ๆ ที่น่าสนใจของสวิตเซอร์แลนด์ อาทิ Raclette, Schnitzel, Saffron Risotto, Swiss Cheese Fritters (Malakoff), Rosti เป็นต้น ภาพจาก Fat Jackey / 20. ของฝากสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนาฬิกาและช็อกโกแลตแล้ว ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ ไวน์, ชาท้องถิ่น, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากธรรมชาติ, เครื่องสำอางค์, แผ่นมาร์กหน้า, มีดและชุดเครื่องมืออเนกประสงค์แบบพกพาแบรนด์ Victerinox, น้ำหอม เป็นต้น หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักเดินทางมือใหม่ที่จะไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์นะคะ ถ้าใครเคยไปสัมผัสมาแล้ว ก็มาบอกเล่าแชร์ประสบการณ์การเดินทางกับเราได้เลย:) ขอขอบคุณข้อมูลจาก,,
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะใช้กระแสไฟฟ้า 220 V: 50 Hz ตัวปลั๊กเป็นแบบ 3 ขา ควรเตรียม Universal Adapter ไปด้วย 9. ควรเปิดโรมมิ่งหรือซื้อซิมการ์ดที่สวิตเซอร์แลนด์ดี? ในกรณีที่ไปเที่ยวหลายวันแนะนำว่าให้ซื้อซิมการ์ดน่าจะคุ้มกว่า เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจจะหลุดจากแพ็กเกจ และยังมีหลายค่ายหลายหลายราคาให้เลือกด้วยค่ะ สามารถหาซื้อได้เลยที่สนามบิน 10.